วันที่ 15 ธค.64 เวลา 10.00 น.พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อมาปฏิบัติราชการ ตรวจเยี่ยมแผนการพัฒนาพื้นที่ พร้อมกับมอบนโยบายแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้งด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้านความมั่นคง และรับฟังสรุปการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ โดยก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาถึง ที่บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถนนสิโรรส เขตเทศบาลนครยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ได้ดำเนินการอำนวยความปลอดภัยในการรักษาความสงบเรียบบร้อยในพื้นที่ โดยจัดวางกำลัง เป็นวงรอบ ถึง 3 ชั้น โดยมีจุดตรวจรายชื่อของผู้ที่เดินทางมาต้อนรับ พร้อมทั้งตั้งจุดบริการตรวจหาเชื้อไวรัส ด้วยชุดตรวจ ATK ขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มมวลชนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี จำนวนหนึ่งมารอให้กำลังใจแก่นายกรัฐมนตรี
จากนั้นเวลา 10.00 น.นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินทางมาถึงศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การต้อนรับ ก่อนที่จะเดินทางเข้าห้องประชุมความก้าวหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการพูดถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะด้วยน่ะค่ะว่าคลี่คลายแล้วและจะย้ำศอ.บต.กลับไปทำการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งเเวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ SEA ใหม่อย่างระมัดระวัง ก่อนที่ช่วงบ่ายจะเดินทางไปจ.ปัตตานี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลาด้วยโดยพล.อ.ประยุทธ์ยอมรับว่าการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งเเวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ SEA ยังไม่คลอบคลุมคนทุกกลุ่ม และจะเน้นย้ำให้ ศอ.บต.กลับไปศึกษาใหม่พร้อมให้แก้ไขอย่างระมัดระวัง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การทำอะไรก็ตามต้องทำอย่างระมัดระวัง ด้วยข้อกฏหมายบทบัญญัติอำนาจหน้าที่ มันมีอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องทำด้วยความชัดเจน ให้เกิดความเชื่อมั่นไว้วางใจจากภาคประชาชน ทุกอย่างทำได้ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งสิ้น หลายๆเรื่องเกิดขึ้นมาไม่กี่วันมานี้ ทราบกันอยู่ดีแล้ว คลี่คลายไปแล้ว ยืนยันว่า ทุกอย่างที่นโยบายกำหนดมา เรื่องจะนะ อะไรก็แล้วแต่ การจะทำได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนแล้ว เรื่องทำ SEA ทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ยอมรับได้ ก็ต้องทำต่อ มันก็จะนำไปสู่การทำเรื่องที่ 2 ที่ 3 ได้ มันก็มีกฏหมายครอบอีกอันนึง อันนี้ถ้าเข้าใจกันก็ทำได้ แต่ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็ทำไม่ได้อยู่ดี แล้วเราจะดูแลเยียวยาคนที่มีผลกระทบอย่างไร การทำงานการลงทุน ทุกๆอย่างก็ต้องดูทุกมิติ ใครที่เดือดร้อนมาก เดือดร้อนน้อย ผมว่าถ้าทำให้เต็มทั้งพื้นที่มันก็จะไปยาก อะไรที่ทำได้ก็ทำไปก่อนทุกเรื่อง อันนี้ในทางกฏหมายได้เน้นย้ำทาง ศอบต.ด้วย
****************************